เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เชิญ 7 พรรคการเมือง ร่วมดีเบตประชันวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤตประเทศไทย” ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 2566
ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทุกพรรคร่วมแสดงความคิดเห็น คือ เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคเห็นพ้องกันว่า พรรคการเมืองที่มีเสียงส.ส.อันดับหนึ่ง ควรมีสิทธิ์ที่จะตั้งรัฐบาลก่อนคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
7 พรรคร่วมเวทีดีเบต PPTV ประชันวิสัยทัศน์ จุดยืนรัฐบาลต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน
พีพีทีวีดีเบต 7 พรรคการเมือง ถกปมร้อน! กฎหมาย ม.112
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า มารยาททางการเมือง พรรคใดได้เสียงมากที่สุดได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่ถ้าตระเวน 4-5 วัน ยังทำไม่ได้ ประธานสภาก็จะบอกว่า อาจจะเป็นพรรคที่สอง พรรคที่สาม ซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีต คือ พรรคการเมืองที่มี 18 เสียงเมื่อ พ.ศ.2518 เพราะไปชวนทุกคนแล้วเขาเอาด้วย รับคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย เผยว่า ในฐานะพรรคที่มีโอกาสเสียงมากที่สุดจึงเชิญชวนให้เลือกเราแบบแลนด์สไลด์ เพื่อจะตั้งรัฐบาล ยืนหลักปักฐานรวบรวมเสียงต่างๆ เพื่อจะทำตามเจตนารมณ์ มีเงื่อนไขสำคัญ 3 ข้อ คือ 1.นายกรัฐมนตรีต้องมาจากพรรคเพื่อไทย 2.นโยบายที่หาเสียงไว้ทุกตัวต้องทำให้ได้ ต้องไม่ปฏิเสธและไม่ขัดขวาง 3.อยู่ร่วมกันด้วยการดำรงเสถียรภาพของรัฐบาลไปได้ เพื่อประโยชน์สุขประชาชนในระยะยาว
นายเกียรติ สิทธีอมร กรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ถามว่า อำนาจของส.ว. 250 คน ชอบหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่ชอบ และระหว่างทำประชามติก่อนหน้านี้ พรรคก็แสดงความเห็นชัดเจน แต่เมื่อผ่านประชามติไปแล้ว ไม่ว่าจะสมบูรณ์แบบหรือไม่ก็ตาม หากไม่เคารพประชามติเสียงข้างมาก ประเทศนี้จะมีปัญหาไม่รู้จบ จากนี้เหลือเวลาอีกไม่เกิน 2 ปี อำนาจนี้หมดไปแล้ว ขอให้พอแล้ว
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งต้องมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือการประวิงเวลาในการรับรอง ส.ส.ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร เพราะมีเวลา 60 วันในการดำเนินการ หากมีการเล่นแร่แปรธาตุก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องระวัง พร้อมเห็นว่า ควรมีการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดไว้ชัดเจนว่า ใครได้ ส.ส. 251 เสียง ฝั่งนั้นก็เป็นรัฐบาล ตามหลักการประชาธิปไตย
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ขอให้ ส.ว.ปิดสวิตซ์ตัวเองด่วน ขออย่าคิดพิเรน หากมีคนรวมได้ 230 – 240 เสียง หากจะคิดว่าจะเอาเสียง ส.ว.มาบวกแล้วเลือกนายกรัฐมนตรีได้ หากทำแบบนี้ บ้านเมืองจะไปไม่ได้ เศรษฐกิจจะพัง ขอให้ยอมรับเสียงข้างมากจากประชาชนในวันที่ 14 พ.ค.นี้
น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า หลักการประชาธิปไตย เห็นตรงกันหมด แต่สิ่งที่เป็นประเด็นต้องครุ่นคิดคือหลักโกงประชาธิปไตย ที่เกิดจากการปฏิวัติรัฐประหาร ที่ฝังการเอาเปรียบคนอื่นในทุกภาคส่วน ในกฎหมาย ในองค์กรอิสระ รวมถึงฝังลงไปใน ส.ว. 250 คน ซึ่งครั้งก่อน ฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงมากกว่า กระทั่งมีการปล้นกันไปจนกลับไปแพ้ ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้อย่าให้ซ้ำรอย
นายเกียรติ สิทธีอมร กรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของ ส.ว. คือหัวหน้าพรรคที่นั่งอยู่ตรงนี้ 2 พรรค ซึ่งต้องปิดสวิตซ์ตัวเองก่อน
